
รักลูกอย่าให้ลูกดูจอ
คุณแม่บอกก่อนคะน้องเพิ่ง 8 เดือน ความเข้าใจว่าทีวี กับความจริง สองมิติ และสามมิติ ยังแยกไม่ออกแน่นอน ตอนแรกเราฟังคุณหมอมาก็ยังไม่เชื่อ เกิดความอยากรู้ พอแม๊กซ์ 6 เดือน แม่ก็อยากลุ้นผลเลือกตั้งเลยเปิดดู ผลก็เป็นอย่างที่เห็นเลยคะ ลูกไม่ไปไหนเลย ไม่เล่นอะไรเลย เกาะกรงอยู่ตรงนั้น นิ่งไปเลย เหมือนถูกสะกดจิต ประมาณ 10 นาทีผ่านไป เลยปิด ไม่ลุ้นมันแล้วผลเลือกตั้ง ใครได้เป็นพรุ่งนี้ก็ยังต้องไปทำงานแล้วเลี้ยงลูกเหมือนเดิม

ที่ดราม่าคือเมื่อวันก่อนที่เนอสเซอรี่ของแม๊กซ์ เปิดทีวีให้น้องดู คุณแม่คะ หากต้องเลือกสถานเลี้ยงเด็ก เพราะทั้งพ่อและแม่ทำงานเหมือนเบ็นซ์ ให้เลือกสถานเลี้ยงเด็ก ที่มีกล้องให้เราได้ดูเท่านั้น ไม่งั้นคุณแม่จะไม่ทราบเลยว่าเค้าทำอะไรกับลูกเราบ้าง
คุณแม่ห้ามไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันพุธที่ผ่านมาก็ทำอีก พี่เลี้ยงคนละคน เค้าคิดว่าให้น้องดู ครึ่งชั่วโมงไม่เป็นไร รอคุณแม่มารับ คุณแม่ติดประชุมกับแบงค์อยู่พอคุณพ่อส่งมาให้เห็นเท่านั้นแหละ รีบประชุมเสร็จอย่างไวแล้วรีบไปรับ จากนั้นก็โทรหาเจ้าของแจ้งให้ทราบ และย้ายลูกออกทันที กลับมาที่เนอสเซอรี่ ใกล้บ้านแทน ไม่มีทีวีแน่นอน
เราขับรถพาลูกกลับบ้านก็น้ำตาซึมนิดหน่อย โกรธตัวเองที่ไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยตัวเองได้ โกรธสถานเลี้ยงเด็กที่ไม่ทำตามสัญญา และไม่เข้าใจพัฒนาการเด็ก สัญชาติญาณความเป็นแม่ถูกเสมอ ไม่ดีก็เปลี่ยน อย่าไปกลัวลูกเราปรับตัวได้เค้ายังเด็กมาก ดูทีวีไม่ได้ ดูมือถือไม่ได้
พญ. นลินี เชื้อวณิชชากร กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพสมาคมกุมารแพทย์อเมริกา แนะนำว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรดูทีวี เพราะทีวีส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของลูกไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการทางด้านร่างกาย พัฒนาการทางด้านสติปัญญา สร้างโรคสมาธิสั้นให้แก่เด็ก และยังปิดโอกาสการทำกิจกรรมในครอบครัว ทำให้ลูกไม่มีโอกาสเบื่อ และไม่หาของเล่นเพื่อสร้างเสริมทักษะตัวเอง ทำให้พ่อแม่คิดว่าลูกอยู่ได้ เราก็ไม่เล่นกับลูก
น้องควรได้ดูทีวี เมื่อเริ่มรู้เรื่องแล้ว เอาเป็นว่าสัก 3 ขวบแล้วเรานั่งดูกับเค้าดู้วย ไม่ใช่เปิดไว้ทั้งวัน เราอยากได้ลูกที่ดี ไม่ร้องกรี๊ด ๆ ใช่ใหมละ หนึ่งในความลับนั้นคือห้ามทีวี
บทความโดย
Dr. Benz Choklap
คาเฟ่เด็ก Babble Space KidsCafe